ข้อควรรู้ กินเห็ดหลินจือ การขับพิษ ไม่ใช่อาการข้างเคียง
- blog.organicshop44
- 5 ม.ค. 2563
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 15 มี.ค. 2565
ไม่อยากให้พลาด! กินเห็ดหลินจือ บางคนมีอาการ เช่น ง่วงนอน ฉี่บ่อย หรือ คัน การขับพิษที่ไม่ใช่ผลข้างเคียง หรือการแพ้
ข้อควรรู้ที่ไม่อันตราย แม้จะกินเห็ดหลินจือต่อเนื่องทุกวัน แต่เป็นปฏิกิริยาการกำจัดของเสีย (สารก่อพิษ) ที่สะสมในร่างกาย

สารก่อพิษ หรือ ท็อกซิน ( Toxin ) คือสารที่เป็นพิษ หรือที่อาจทำให้เกิดเป็นพิษขึ้นมาได้ที่มีอยู่ในร่างกาย และมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง อาหาร เช่น สารเร่งโต สารเร่งเนื้อแดง สารตะกั่วสารปรอท ป่นเปื้อนในอาหาร
สิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางอากาศ เช่น ควันรถ จากท่อไอเสียสารตะกั่ว และสารปรอท ที่ป่นเปื้อนในควันรถ ความสมดุลในร่างกายที่นำไปสู่ความเสื่อมของร่างกาย ทำให้ขจัดไม่สมดุลอื่นๆ เช่น ยารักษาโรคต่างๆ
สารเหล่านี้ถ้าปล่อยให้มีการสะสมในร่างกายนอกจากจะทำให้ระบบต่างๆ ไม่สามารถทำงานเป็นปกติแล้ว
ยังทำให้เกิดอาการเรื้อรังหลายๆ อย่างทำให้สิ้นเปลืองภูมิคุ้มกันและเซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นโรคต่างๆ ขึ้นได้
เห็ดหลินจือ การขับพิษที่ไม่ใช่อาการข้างเคียง
เห็ดหลินจือที่มีคุณสมบัติทางยา คือ เมื่อผู้ใช้เริ่มทานเห็ดหลินจือ ระยะแรกหากเป็นเห็ดหลินจือที่มีสารออกฤทธิ์ทางยาครบถ้วน บางรายอาจมีอาการ ท้องเสีย คอแห้ง หรือมีผื่นคัน แต่มักหายได้เอง ภายใน 2-7 วัน โดยการขับพิษ ที่มีลักษณะเฉพาะ คือ การเกิดแสดงอาการของโรคที่ฝังลึกภายในร่างกายออกมา
โรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ ฝ้า กระ โรคเกี่ยวกับ ตับ ไต ความจำเสื่อม ฯลฯ
อาการตามหลักแพทย์แผนจีน หลังจากทานเห็ดหลินจือ ที่ไม่ใช่ผลข้างเคียง
ลักษณะและอาการต่างๆ ที่แสดงออกจากบริเวณใบหน้าได้
ดวงตา มีสีแดง มีสารพิษในร่างกายสูงและตับกำลังทำลายสารพิษนั้นๆอยู่ ตาพร่ามัวมองไม่เห็น แสดงว่าตับกำลังปรับตัวเองอยู่ ดวงตากับเปลือกตาตึง แสดงถึงโรคทางจิตใจ,โรคเครียด
จมูก จะเกี่ยวข้องกับโรคในระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล แสดงถึงกระบวนการกำลังควบคุม เพื่อแก้การแพ้และร่างกายกำลังกำจัด สิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายในระบบทางเดินหายใจ ถ้ามีอาการไอ บ่งบอกถึงร่างกายกำลังขจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
ลำคอ มีอาการคอแห้ง,เจ็บคอ,กระหายน้ำมาก แสดงถึงสภาวะที่ร่างกายกำลังขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
ริมฝีปาก แสดงถึงโรคในระบบย่อยอาหาร ริมฝีปากซีด เป็นการชี้บ่งถึงระบบย่อยอาหารบกพร่อง มีก๊าชในกระเพาะอาหาร ริมฝีปากแห้งและแตก บอกถึงการมีสารพิษจำนวนมากในกระเพาะอาหาร
ปากและลิ้น จะแสดงถึงโรคในระบบการไหลเวียนของเลือดและโรคหัวใจ ลิ้นและเหงือกบวม ปวดมาก แสดงถึงการอุดตันในเส้นเลือด ลิ้นหัวใจมีปัญหา ลิ้น เยื่อบุภายในช่องปาก และเหงือกมีแผลเปื่อย แสดงถึงสภาวะความเป็นกรดในเลือดสูงเกินควร
หู จะแสดงถึงโรคไต หากมีอาการชาที่หู แสดงถึงกระบวนขจัดสารพิษออกจากไต
ลักษณะและอาการขับพิษ ที่แสดงออกทางผิวหนัง
เหงื่อ มีรสเค็ม แสดงว่าร่างกายมีกรดยูริคสูง ถ้ามีกลิ่นเหม็นจะบอกถึงร่างกายขับสารพิษออกทางเหงื่อ
ฝี ผื่น แสดงถึงการขับสารพิษที่เป็นไขมันออกทางผิวหนัง
อาการคัน และผื่นที่ผิวหนัง แสดงถึงกระบวนการขับสารพิษผ่านทางผิวหนัง เนื่องจากมีการใช้ยาแผนปัจจุบันมากเกินควร
ผิวผุพอง และมีน้ำเหลืองเยิ้ม แสดงถึงร่างกายกำลังขับถ่ายสารพิษที่ละลายน้ำได้
ผมร่วง แสดงถึงการทำงานของไตไม่มีประสิทธิภาพ
ลักษณะและอาการต่างๆ ที่แสดงออกทางข้อต่อ มือและเท้า
ปวดตามข้อต่อ และรู้สึกร้อน แสดงว่าการบาดเจ็บที่ข้อต่อ หรือมีเกลือของยูริคตกค้างอยู่ในข้อต่อ ของมือและเท้า
ปวดตามข้อต่อ และไม่รู้สึกร้อน แสดงว่าโรครูมาติสซึ่ม(Rheumatism)ไขข้ออักเสบ
ปวดไหล่ แสดงถึงหลอดเลือดกำลังแข็งตัว การทำหน้าที่เผาผลาญอาหารไม่สมดุล
อาการชาที่มือและเท้า แสดงถึงการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงปลายแขนปลายขาไม่ดี
อาการชาที่มือและแขนซ้าย จะบ่งบอกถึงโรคหัวใจอาการปวดหน้าเท้า แสดงถึงโรคไต ไตทำงานประสิทธิภาพต่ำ
อาการคันระหว่างนิ้วเท้า แสดงถึงโรคเท้าเปื่อย
สามารถสังเกตุปฏิกริยาการขับพิษ จากอาการตามส่วนต่างๆ ของร่างกายดังนี้
ปวดหรือวิงเวียนที่ด้านหน้าของศรีษะ จะบ่งบอกถึงโรคจิตประสาท
ปวดหรือวิงเวียนที่ด้านหลังศรีษะส่วนบน จะบ่งชี้ถึงโรคความดันโลหิตสูง
ปวดส่วนล่างบริเวณท้ายทอย แสดงถึงโรคความดันโลหิตต่ำ
วิงเวียนหรือมึนงงทั่วศรีษะ จะแสดงถึงการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ดี
ปากและคอ อาเจียนในบางกรณี เป็นสัญญาณการขจัดพิษออกจากกระเพาะ
การเป็นโรคหืด อาเจียนเป็นเลือดสีแดง เป็นสัญญาณการขจัดเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพจากลำคอ
ปอด อาเจียนเป็นเลือดสีดำเป็นสัญญาณการขจัดเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพจากกระเพาะโดยมักจะมีแผลเปื่อย
ลิ้น หากมีอาการลิ้นเกร็งและแข็งจะแสดงถึงโรคหัวใจน้ำลาย หากมีอาการ
น้ำลายข้นมาก ในบางกรณีจะเป็นกระบวนการขจัดสารพิษจากลำคอเนื้องอก จากการติดเชื้อหรือมะเร็ง
ปัสสาวะ จะเกี่ยวพันกับโรคไต ฉี่บ่อย แสดงถึงการมีการขับถ่าย และขจัดของเสียออกทางไตมาก โดยมีคราบมันในปัสสาวะ บ่งบอกถึงมีไขมันเสียอยู่ในไต หรือถ้าปัสสาวะข้นเป็นสีน้ำตาล แสดงถึงการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย
อุจจาระท้องเดิน ถ่ายท้อง ท้องเสีย เป็นการขจัดของเสีย และสารพิษจากลำไส้ใหญ่ ถ้าท้องผูกเป็นการขจัดสารพิษจากลำไส้เล็ก หรือบางคนอุจจาระมีเลือดสีแดง จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงโรคริดสีดวงทวาร แต่ถ้าอุจจาระมีเลือดสีดำ แสดงถึงโรคแผลในกระเพาะอาหาร

ประโยชน์จากสรรพคุณเห็ดหลินจือมีมากมาย
แต่ผู้ใช้บางคนไม่เข้าใจ เมื่อกินเห็ดหลินจือ แล้วมีอาการดังกล่าว ให้ลดปริมาณทานเห็ดหลินจือลงประมาณ 3-4 วัน อาการต่างๆ จะหายไป และถ้าให้ดียิ่งขึ้นควรรับทาน ร่วมกับวิตามินซีซึ่งจะทำให้อาการขับพิษมีอาการน้อยลง ร่างกายฟื้นตัวเร็ว และเกิดอาการข้างเคียงน้อยลง
ดังนั้นผู้ทานเห็ดหลินจือ จึงไม่ควรตกใจและต้องทำความเข้าใจ ว่าอาการต่างๆที่เกิดขึ้นว่ามิใช่อาการแพ้ หรือผลข้างเคียง (Side Effect) ของเห็ดหลินจือ
ไม่ควรหยุดทาน
เมื่ออาการดีขึ้น จึงค่อยกลับมากินในปริมาณปกติที่แนะนำ
จากงานวิจัยพบว่าสมุนไพรเห็ดหลินจือ แม้จะทานต่อเนื่องทุกวันไม่ทำให้เกิดผลเสีย หรืออันตราย แต่กลับทำให้สุขภาพดีขึ้น
สำหรับผู้ที่ทานยาแผนปัจจุบันอยู่ไม่ควรหยุดยาของแพทย์ แต่ควรทานเห็ดหลินจือ หลังจากทานยาแผนปัจจุบันไปแล้วประมาณ 1 ช.ม ซึ่งจะเป็นผลดีต่อร่างกายในการบำบัดโรค ตามแนวทางทฤษฎี “การแพทย์ผสมผสาน”
^-^ กดปุ่มแชร์ในโซเชียลมีเดีย ถ้าบทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณ แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้เพื่อนๆ เพื่อคนไทยมีสุขภาพที่ดี!! ^-^
Commenti